Nuskin Categories
- Nuskin Galvanic Spa (2)
- nuskin ageloc (2)
- Nuskin 180 (1)
- Nuskin Clear Action (1)
- Nuskin Lifepak (1)
- Nuskin Nutricentials (1)
- Nuskin Tri Phasic White (1)
- Nuskin g3 (1)
- เครื่องสำอางค์สูตรน้ำ (1)
Recent Posts
Blog Archive
วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
เครื่องสำอางค์สูตรน้ำกับสูตรน้ำมัน
06:28 | เขียนโดย
tetae |
แก้ไขบทความ
สวัสดีครับทุกท่านเป็นยังไงกันบ้างครับ ช่วงนี้อากาศเริ่มจะหนาวแล้วนะครับ ยังไงก็อย่าลืมรักษาสุขภาพทั้งตัวของคุณเองและคนที่คุณรักด้วยละกันนะครับ
เอาละครับวันนี้จากหัวข้อ ผมก็จะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่างเครื่องสำอางค์สูตรน้ำกับสูตรน้ำมันเท่าที่ความรู้ของผมพอจะมีให้ทุกท่านได้ทราบกันนะครับ ซึ่งถ้าท่านใดมีความคิดเห็นหรือความรู้เพิ่มเติมยังไงก็สามารถแลกเปลี่ยนกันได้เต็มที่เลยนะครับ
จากความรู้ของผมเนี่ยเครื่องสำอางค์หรือ skin care เนี่ยจะแบ่งตามสูตรได้อยู่ 2 ชนิดคือ
1. เครื่องสำอางค์สูตรน้ำหรือ Water Based คือจะไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
2. เครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันหรือ Oil Based
ซึ่งเครื่องสำอางค์ชั้นนำ brand ดังๆทั้งหลายที่เราพบเห็นตามห้างนั้นส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นสูตรน้ำมันกันแทบจะทั้งสิ้นเลยก็ว่าได้ เครื่องสำอางค์สูตรน้ำเท่าที่ผมทราบก็จะมีอยู่แค่ไม่กี่ยี่ห้อครับเช่น SKII, H2O, Bioterm, Vichy รวมถึงของ Nuskin เองด้วยครับ
ข้อแตกต่างระหว่างเครื่องสำอางค์สูตรน้ำกับสูตรน้ำมัน
เนื่องจากโมเลกุลของน้ำนั้นจะมีขนาดเล็กกว่าน้ำมันทำให้เครื่องสำอางค์สูตรน้ำนั้นจะสามารถซึมเข้าสู่ผิวเราได้เร็วและก็ดีกว่าสูตรน้ำมันครับ ซึ่งโดยปกติใบหน้าคนเรานั้นจะผลิตน้ำมันเพื่อหล่อเลี้ยงให้ใบหน้าของเรานั้นชุ่มชื่นอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเราใช้เครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันก็จะยิ่งทำให้หน้าของเรานั้นยิ่งมันขึ้นไปใหญ่ พร้อมทั้งทำให้การผลิตน้ำมันเพื่อหล่อเลี้ยงใบหน้าของเรานั้นไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าของเราขาดความชุ่มชื้น เราสามารถทดลองว่าเครื่องสำอางค์ที่เราใช้นั้นเป็นสูตรน้ำหรือน้ำมันได้โดยการใช้กระดาษซับมันครับ โดยลองทาครีมที่เราใช้ที่หลังมือเราแล้วทิ้งไว้สักครู่ หลังจากนั้นก็นำกระดาษซับมันมาซับที่หลังมือที่เราทาครีมไว้ ถ้าเครื่องสำอางค์ที่เราใช้นั้นเป็นสูตรน้ำ กระดาษซับมันจะอยู่ในสภาพปกติไม่มีการเปลี่ยนแปลงสามารถนำมาใช้ซับหน้าเราได้ใหม่ แต่ถ้าเครื่องสำอางค์ที่เราใช้เป็นสูตรน้ำมัน กระดาษซับมันก็จะเปลี่ยนสภาพไปเหมือนตอนที่เรานำกระดาษมาซับหน้าเราตอนที่มันๆนั้นแหละครับ
แล้วถ้าเราใช้เครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันหน้าของเราจะเหมือนกระทะไข่เจียวดีๆนี่เองครับ เพราะเวลาที่หน้าของเรามันมากๆแล้วเราจำเป็นต้องออกไปเจอแสงแดดข้างนอก น้ำมันบนใบหน้าของเราเมื่อมันเจอกับความร้อนจากแสงแดดเข้ามันก็จะระอุครับ นึกถึงตอนที่เราเทน้ำมันลงบนกระทะแล้วจุดไฟครับยังไงยังงั้นเลย ซึ่งก็จะทำให้ใบหน้าของเรามีเม็ดสีที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นเป็นที่มาของล่องรอย จุดด่างดำและฝ้ากระบนใบหน้านั้นเองครับ
พร้อมทั้งยังเป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนของเรานั้นกว้างขึ้นด้วยครับ เพราะปกติใบหน้าของเรานั้นต้องการหายใจเพื่อถ่ายเทอากาศครับ ซึ่งถ้าหากใบหน้าของเรามัน มันจะเหมือนกับเราเอาแผ่นฟิลม์มาปิดที่ใบหน้าของเราครับ ทำให้ใบหน้าของเราหายใจไม่ได้มันก็เลยพยายามที่จะถ่างตัวออกเพื่อที่จะหายใจ เลยเป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนของเรานั้นกว้างขึ้นครับ คล้ายกับเวลาที่น้ำมันหกลงไปในทะเล สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้บริเวณนั้นจะตายครับเพราะขาด O2 เนื่องจากน้ำมันที่ตกลงไปนั้นทำให้น้ำทะเลแถบนั้นไม่สามารถถ่ายเทอากาศเพื่อผลิต O2ได้ครับ
นอกจากนั้นหน้าของเราก็จะทำหน้าที่เป็นเครื่องดูดฝุ่นด้วยครับ เพราะเมื่อใบหน้าของเรามัน เศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆก็จะมาเกาะติดตามใบหน้าของเราได้ง่าย แล้วถ้ายิ่งรูขุมขนของเรากว้างแล้วละก็ เศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆก็มีโอกาสที่จะเข้ามาอุดตันที่รูขุมขนของเราเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวขึ้นมานั้นเองครับ ซึ่งเราสามารถทดลองได้ครับโดยใช้ผงชา โดยการลองทาเครื่องสำอางค์สูตรน้ำกะสูตรน้ำมันที่หลังมือคนละข้างครับ หลังจากนั้นก็ลองเทผงชาลงบนหลังมือทั้ง 2 ข้าง แล้วทีนี้ก็หงายฝ่ามือทั้ง 2 ขึ้นครับ จะสังเกตุเห็นได้ครับว่าหลังมือข้างที่ทาเครื่องสำอางค์สูตรน้ำนั้น เศษผงชาจะหล่นตกลงที่พื้นไม่เกาะติดอยู่ที่หลังมือ แต่หลังมือข้างที่ทาเครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันจะมีเศษผงชาเกาะติดอยู่ที่หลังมือไม่ยอม ต่อให้สะบัดหรือปรบมือยังไงก็ยังเกาะติดอยู่ ไม่ตกลงพื้นทั้งหมด
เป็นยังไงกันบ้างละครับ ที่เล่ามาก็เป็นข้อมูลต่างๆที่ผมพอจะทราบเกี่ยวกับเครื่องสำอางค์สูตรน้ำและก็น้ำมันนะครับ ยังไงถ้าใครมีข้อคิดเห็นเหมือนหรือแตกต่าง หรืออะไรเพิ่มเติมยังไง ก็สามารถแลกเปลี่ยนนำเสนอกันได้เลยนะครับ ^_^
เอาละครับวันนี้จากหัวข้อ ผมก็จะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่างเครื่องสำอางค์สูตรน้ำกับสูตรน้ำมันเท่าที่ความรู้ของผมพอจะมีให้ทุกท่านได้ทราบกันนะครับ ซึ่งถ้าท่านใดมีความคิดเห็นหรือความรู้เพิ่มเติมยังไงก็สามารถแลกเปลี่ยนกันได้เต็มที่เลยนะครับ
จากความรู้ของผมเนี่ยเครื่องสำอางค์หรือ skin care เนี่ยจะแบ่งตามสูตรได้อยู่ 2 ชนิดคือ
1. เครื่องสำอางค์สูตรน้ำหรือ Water Based คือจะไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
2. เครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันหรือ Oil Based
ซึ่งเครื่องสำอางค์ชั้นนำ brand ดังๆทั้งหลายที่เราพบเห็นตามห้างนั้นส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นสูตรน้ำมันกันแทบจะทั้งสิ้นเลยก็ว่าได้ เครื่องสำอางค์สูตรน้ำเท่าที่ผมทราบก็จะมีอยู่แค่ไม่กี่ยี่ห้อครับเช่น SKII, H2O, Bioterm, Vichy รวมถึงของ Nuskin เองด้วยครับ
ข้อแตกต่างระหว่างเครื่องสำอางค์สูตรน้ำกับสูตรน้ำมัน
เนื่องจากโมเลกุลของน้ำนั้นจะมีขนาดเล็กกว่าน้ำมันทำให้เครื่องสำอางค์สูตรน้ำนั้นจะสามารถซึมเข้าสู่ผิวเราได้เร็วและก็ดีกว่าสูตรน้ำมันครับ ซึ่งโดยปกติใบหน้าคนเรานั้นจะผลิตน้ำมันเพื่อหล่อเลี้ยงให้ใบหน้าของเรานั้นชุ่มชื่นอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเราใช้เครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันก็จะยิ่งทำให้หน้าของเรานั้นยิ่งมันขึ้นไปใหญ่ พร้อมทั้งทำให้การผลิตน้ำมันเพื่อหล่อเลี้ยงใบหน้าของเรานั้นไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าของเราขาดความชุ่มชื้น เราสามารถทดลองว่าเครื่องสำอางค์ที่เราใช้นั้นเป็นสูตรน้ำหรือน้ำมันได้โดยการใช้กระดาษซับมันครับ โดยลองทาครีมที่เราใช้ที่หลังมือเราแล้วทิ้งไว้สักครู่ หลังจากนั้นก็นำกระดาษซับมันมาซับที่หลังมือที่เราทาครีมไว้ ถ้าเครื่องสำอางค์ที่เราใช้นั้นเป็นสูตรน้ำ กระดาษซับมันจะอยู่ในสภาพปกติไม่มีการเปลี่ยนแปลงสามารถนำมาใช้ซับหน้าเราได้ใหม่ แต่ถ้าเครื่องสำอางค์ที่เราใช้เป็นสูตรน้ำมัน กระดาษซับมันก็จะเปลี่ยนสภาพไปเหมือนตอนที่เรานำกระดาษมาซับหน้าเราตอนที่มันๆนั้นแหละครับ
แล้วถ้าเราใช้เครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันหน้าของเราจะเหมือนกระทะไข่เจียวดีๆนี่เองครับ เพราะเวลาที่หน้าของเรามันมากๆแล้วเราจำเป็นต้องออกไปเจอแสงแดดข้างนอก น้ำมันบนใบหน้าของเราเมื่อมันเจอกับความร้อนจากแสงแดดเข้ามันก็จะระอุครับ นึกถึงตอนที่เราเทน้ำมันลงบนกระทะแล้วจุดไฟครับยังไงยังงั้นเลย ซึ่งก็จะทำให้ใบหน้าของเรามีเม็ดสีที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นเป็นที่มาของล่องรอย จุดด่างดำและฝ้ากระบนใบหน้านั้นเองครับ
พร้อมทั้งยังเป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนของเรานั้นกว้างขึ้นด้วยครับ เพราะปกติใบหน้าของเรานั้นต้องการหายใจเพื่อถ่ายเทอากาศครับ ซึ่งถ้าหากใบหน้าของเรามัน มันจะเหมือนกับเราเอาแผ่นฟิลม์มาปิดที่ใบหน้าของเราครับ ทำให้ใบหน้าของเราหายใจไม่ได้มันก็เลยพยายามที่จะถ่างตัวออกเพื่อที่จะหายใจ เลยเป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนของเรานั้นกว้างขึ้นครับ คล้ายกับเวลาที่น้ำมันหกลงไปในทะเล สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้บริเวณนั้นจะตายครับเพราะขาด O2 เนื่องจากน้ำมันที่ตกลงไปนั้นทำให้น้ำทะเลแถบนั้นไม่สามารถถ่ายเทอากาศเพื่อผลิต O2ได้ครับ
นอกจากนั้นหน้าของเราก็จะทำหน้าที่เป็นเครื่องดูดฝุ่นด้วยครับ เพราะเมื่อใบหน้าของเรามัน เศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆก็จะมาเกาะติดตามใบหน้าของเราได้ง่าย แล้วถ้ายิ่งรูขุมขนของเรากว้างแล้วละก็ เศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆก็มีโอกาสที่จะเข้ามาอุดตันที่รูขุมขนของเราเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวขึ้นมานั้นเองครับ ซึ่งเราสามารถทดลองได้ครับโดยใช้ผงชา โดยการลองทาเครื่องสำอางค์สูตรน้ำกะสูตรน้ำมันที่หลังมือคนละข้างครับ หลังจากนั้นก็ลองเทผงชาลงบนหลังมือทั้ง 2 ข้าง แล้วทีนี้ก็หงายฝ่ามือทั้ง 2 ขึ้นครับ จะสังเกตุเห็นได้ครับว่าหลังมือข้างที่ทาเครื่องสำอางค์สูตรน้ำนั้น เศษผงชาจะหล่นตกลงที่พื้นไม่เกาะติดอยู่ที่หลังมือ แต่หลังมือข้างที่ทาเครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันจะมีเศษผงชาเกาะติดอยู่ที่หลังมือไม่ยอม ต่อให้สะบัดหรือปรบมือยังไงก็ยังเกาะติดอยู่ ไม่ตกลงพื้นทั้งหมด
เป็นยังไงกันบ้างละครับ ที่เล่ามาก็เป็นข้อมูลต่างๆที่ผมพอจะทราบเกี่ยวกับเครื่องสำอางค์สูตรน้ำและก็น้ำมันนะครับ ยังไงถ้าใครมีข้อคิดเห็นเหมือนหรือแตกต่าง หรืออะไรเพิ่มเติมยังไง ก็สามารถแลกเปลี่ยนนำเสนอกันได้เลยนะครับ ^_^
ป้ายกำกับ:
เครื่องสำอางค์สูตรน้ำ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
3 ความคิดเห็น:
ประสบการณ์ของผู้ใช้ เป็นไงบ้าง
ใช้ชุด nutricential อยู่ค่ะชอบมาก เมื่อก่อนหน้ามัน รู้สึกว่าความมันบนใบหน้าลดลง ดูสว่างใสขึ้น ดีมากๆค่ะ
ดิฉันซื้อผลิตภัณฑ์Nuskinแล้วปรากฎว่าสินค้าหมดอายุปี2011เดือน7ที่จะถึงนี้ ถามว่าจะเป็นอันตรายอะไรมั้ยค่ะ
แสดงความคิดเห็น