ลดน้ำหนักกระชับสัดส่วนกับ Nuskin TRA

ลดน้ำหนักกระชับสัดส่วนกับ Nuskin TRA
ง่ายไม่ยุ่งยาก เห็นผล ปลอดภัย 100%

ผิวสวยใสง่ายๆเพียง 10 นาที

ผิวสวยใสง่ายๆเพียง 10 นาที
สนใจทดลองทำ Spa ด้วยเครื่อง Galvanic Spa ฟรี! ติดต่อ 0814245662

วัดสารต้านอนุมูลอิสระง่ายๆไม่ถึง 5 นาที

วัดสารต้านอนุมูลอิสระง่ายๆไม่ถึง 5 นาที
ตรวจวัดระดับสารต้านอนุมูลอิสระง่ายๆกับ biophotonic scanner

Hot Product

Hot Product
Nuskin Ageloc Transformation

ชุด Nuskin 180

Nuskin clear action ชุดรักษาสิวอย่างครบวงจร

ชุดพื้นฐานปรับสภาพผิว
วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เครื่องสำอางค์สูตรน้ำกับสูตรน้ำมัน



สวัสดีครับทุกท่านเป็นยังไงกันบ้างครับ ช่วงนี้อากาศเริ่มจะหนาวแล้วนะครับ ยังไงก็อย่าลืมรักษาสุขภาพทั้งตัวของคุณเองและคนที่คุณรักด้วยละกันนะครับ

เอาละครับวันนี้จากหัวข้อ ผมก็จะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่างเครื่องสำอางค์สูตรน้ำกับสูตรน้ำมันเท่าที่ความรู้ของผมพอจะมีให้ทุกท่านได้ทราบกันนะครับ ซึ่งถ้าท่านใดมีความคิดเห็นหรือความรู้เพิ่มเติมยังไงก็สามารถแลกเปลี่ยนกันได้เต็มที่เลยนะครับ

จากความรู้ของผมเนี่ยเครื่องสำอางค์หรือ skin care เนี่ยจะแบ่งตามสูตรได้อยู่ 2 ชนิดคือ
1. เครื่องสำอางค์สูตรน้ำหรือ Water Based คือจะไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
2. เครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันหรือ Oil Based

ซึ่งเครื่องสำอางค์ชั้นนำ brand ดังๆทั้งหลายที่เราพบเห็นตามห้างนั้นส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นสูตรน้ำมันกันแทบจะทั้งสิ้นเลยก็ว่าได้ เครื่องสำอางค์สูตรน้ำเท่าที่ผมทราบก็จะมีอยู่แค่ไม่กี่ยี่ห้อครับเช่น SKII, H2O, Bioterm, Vichy รวมถึงของ Nuskin เองด้วยครับ

ข้อแตกต่างระหว่างเครื่องสำอางค์สูตรน้ำกับสูตรน้ำมัน

เนื่องจากโมเลกุลของน้ำนั้นจะมีขนาดเล็กกว่าน้ำมันทำให้เครื่องสำอางค์สูตรน้ำนั้นจะสามารถซึมเข้าสู่ผิวเราได้เร็วและก็ดีกว่าสูตรน้ำมันครับ ซึ่งโดยปกติใบหน้าคนเรานั้นจะผลิตน้ำมันเพื่อหล่อเลี้ยงให้ใบหน้าของเรานั้นชุ่มชื่นอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเราใช้เครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันก็จะยิ่งทำให้หน้าของเรานั้นยิ่งมันขึ้นไปใหญ่ พร้อมทั้งทำให้การผลิตน้ำมันเพื่อหล่อเลี้ยงใบหน้าของเรานั้นไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าของเราขาดความชุ่มชื้น เราสามารถทดลองว่าเครื่องสำอางค์ที่เราใช้นั้นเป็นสูตรน้ำหรือน้ำมันได้โดยการใช้กระดาษซับมันครับ โดยลองทาครีมที่เราใช้ที่หลังมือเราแล้วทิ้งไว้สักครู่ หลังจากนั้นก็นำกระดาษซับมันมาซับที่หลังมือที่เราทาครีมไว้ ถ้าเครื่องสำอางค์ที่เราใช้นั้นเป็นสูตรน้ำ กระดาษซับมันจะอยู่ในสภาพปกติไม่มีการเปลี่ยนแปลงสามารถนำมาใช้ซับหน้าเราได้ใหม่ แต่ถ้าเครื่องสำอางค์ที่เราใช้เป็นสูตรน้ำมัน กระดาษซับมันก็จะเปลี่ยนสภาพไปเหมือนตอนที่เรานำกระดาษมาซับหน้าเราตอนที่มันๆนั้นแหละครับ

แล้วถ้าเราใช้เครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันหน้าของเราจะเหมือนกระทะไข่เจียวดีๆนี่เองครับ เพราะเวลาที่หน้าของเรามันมากๆแล้วเราจำเป็นต้องออกไปเจอแสงแดดข้างนอก น้ำมันบนใบหน้าของเราเมื่อมันเจอกับความร้อนจากแสงแดดเข้ามันก็จะระอุครับ นึกถึงตอนที่เราเทน้ำมันลงบนกระทะแล้วจุดไฟครับยังไงยังงั้นเลย ซึ่งก็จะทำให้ใบหน้าของเรามีเม็ดสีที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นเป็นที่มาของล่องรอย จุดด่างดำและฝ้ากระบนใบหน้านั้นเองครับ

พร้อมทั้งยังเป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนของเรานั้นกว้างขึ้นด้วยครับ เพราะปกติใบหน้าของเรานั้นต้องการหายใจเพื่อถ่ายเทอากาศครับ ซึ่งถ้าหากใบหน้าของเรามัน มันจะเหมือนกับเราเอาแผ่นฟิลม์มาปิดที่ใบหน้าของเราครับ ทำให้ใบหน้าของเราหายใจไม่ได้มันก็เลยพยายามที่จะถ่างตัวออกเพื่อที่จะหายใจ เลยเป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนของเรานั้นกว้างขึ้นครับ คล้ายกับเวลาที่น้ำมันหกลงไปในทะเล สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้บริเวณนั้นจะตายครับเพราะขาด O2 เนื่องจากน้ำมันที่ตกลงไปนั้นทำให้น้ำทะเลแถบนั้นไม่สามารถถ่ายเทอากาศเพื่อผลิต O2ได้ครับ

นอกจากนั้นหน้าของเราก็จะทำหน้าที่เป็นเครื่องดูดฝุ่นด้วยครับ เพราะเมื่อใบหน้าของเรามัน เศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆก็จะมาเกาะติดตามใบหน้าของเราได้ง่าย แล้วถ้ายิ่งรูขุมขนของเรากว้างแล้วละก็ เศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆก็มีโอกาสที่จะเข้ามาอุดตันที่รูขุมขนของเราเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวขึ้นมานั้นเองครับ ซึ่งเราสามารถทดลองได้ครับโดยใช้ผงชา โดยการลองทาเครื่องสำอางค์สูตรน้ำกะสูตรน้ำมันที่หลังมือคนละข้างครับ หลังจากนั้นก็ลองเทผงชาลงบนหลังมือทั้ง 2 ข้าง แล้วทีนี้ก็หงายฝ่ามือทั้ง 2 ขึ้นครับ จะสังเกตุเห็นได้ครับว่าหลังมือข้างที่ทาเครื่องสำอางค์สูตรน้ำนั้น เศษผงชาจะหล่นตกลงที่พื้นไม่เกาะติดอยู่ที่หลังมือ แต่หลังมือข้างที่ทาเครื่องสำอางค์สูตรน้ำมันจะมีเศษผงชาเกาะติดอยู่ที่หลังมือไม่ยอม ต่อให้สะบัดหรือปรบมือยังไงก็ยังเกาะติดอยู่ ไม่ตกลงพื้นทั้งหมด

เป็นยังไงกันบ้างละครับ ที่เล่ามาก็เป็นข้อมูลต่างๆที่ผมพอจะทราบเกี่ยวกับเครื่องสำอางค์สูตรน้ำและก็น้ำมันนะครับ ยังไงถ้าใครมีข้อคิดเห็นเหมือนหรือแตกต่าง หรืออะไรเพิ่มเติมยังไง ก็สามารถแลกเปลี่ยนนำเสนอกันได้เลยนะครับ ^_^

บริษัท Nuskin Enterprises



สวัสดีครับทุกท่าน ไหนๆ blog นี้ก็เป็น blog ที่เกี่ยวกับบริษัท nuskin นะครับ เพราะฉะนั้นถ้าไม่พูดถึงตัวบริษัท nuskin เลยก็คงจะไม่ได้ ดังนั้นเราลองมาทำความรู้จักกับบริษัท nuskin กันสักหน่อยดีกว่าครับ ว่ามีที่มาที่ไปยังไงกันบ้างครับ

ประวัติความเป็นมา
บริษัท nuskin นั้นเริ่มก่อตั้งในปี 2527 ปัจจุบัน nuskin enterprises เป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจเครือข่ายที่ใหญ่และเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก นำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ผิวกาย เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยเจตนารมณ์ที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน nuskin ได้สร้างสรรค์รูปแบบ ธุรกิจที่โดดเด่น ซึ่งสามารถทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ เป็นที่รู้จักด้วยพลังการตลาดจากผู้แทนจำหน่ายอิสระนับแสนคนทั่วโลก nuskin ยังเป็นบริษัทมหาชนที่เข้าชื่ออยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ค และดำเนินการอยู่ใน 45 ตลาดทั่วโลก รวมทั้งในสาธารณรัฐประชาชนจีน ในรูปแบบของธุรกิจค้าปลีก ด้วยรายได้มากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

ปณิธานของ nuskin
"ปณิธานของเรา คือ เป็นพลังแห่งความดีที่แผ่ไปทั่วโลก โดยการเสริมศักยภาพให้ผู้คนสามารถพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ด้วยโอกาสทางธุรกิจที่ตอบแทนอย่างแท้จริง ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม รวมทั้งฟื้นฟู และส่งเสริมวัฒนธรรม"

ผลิตภัณฑ์ ALL OF THE GOOD, NONE OF THE BAD รวมแต่สิ่งที่ดี ไม่มีสิ่งที่เป็นโทษ
"ทำไมไม่มีใครทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีแต่ส่วนผสมที่ดีและมีคุณประโยชน์?" เป็นคำถามที่จุดประกายให้ มร. เบลค โรนีย์ และผู้ก่อตั้ง nuskin ท่านอื่นๆ ลงทุนเริ่มต้นด้วยเงินประมาณ 5,000 เหรียญสหรัฐ ในปี พ.ศ.2527 และทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณที่ประกอบด้วยส่วนผสมที่ดีเลิศและให้คุณกับผิวสูงสุด โดยปราศจากสารละลายเคมีที่ไร้ประโยชน์ และ nuskin ยังคงยึดมั่น ในปรัชญาของผลิตภัณฑ์ที่ว่า "รวมแต่สิ่งที่ดี ไม่มีสิ่งที่เป็นโทษ" จนทุกวันนี้ ปัจจุบัน nuskin enterprises นำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณและเส้นผม รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคุณภาพสูงมากกว่า 200 รายการ ด้วยพันธะสัญญาที่จะนำเสนอหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่ทัดเทียมการแข่งขันในตลาด ให้กับผู้บริโภคและผู้แทนจำหน่าย และตอบสนองความต้องการ ของตลาดอย่างแท้จริง

ผสมผสานสุดยอดวิทยาศาสตร์และธรรมชาติ
ด้วยการจับมือกันของ nuskin กับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลกและโรงงานผู้ผลิต ทำให้การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ล้ำหน้าและค้นพบส่วนผสมที่เป็นนวัตกรรมอยู่เสมอ อาทิ การเป็นหนึ่งในรายแรกๆที่นำเอามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ประสิทธิภาพสูง คือ ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) และ โซเดียมพีซีเอ (NaPCA) มาใช้ ด้วยคุณสมบัติในการดึงดูดความชื้นจากอากาศมาเป็นความชุ่มชื้นให้กับผิว แทนการเคลือบผิวอย่างมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ทั่วๆไป และอีกหนึ่งก้าวที่ล้ำหน้าของเรา คือ ซีรีเจน ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของ nuskin ที่ช่วยคงระดับความชุ่มชื้นในเส้นผมในขณะที่ซ่อมแซม ผมเสียไปด้วย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ชุดระบบปฏิบัติการต่อต้านริ้วรอย nuskin 180 ที่ปฏิวัติวิทยาการลดเลือนริ้วรอย และให้ผลการใช้ที่สามารถสังเกต เห็นความแตกต่างได้ภายใน 7 วัน

คัดสรรจากธรรมชาติ พิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์
nuskin enterprises มุ่งมั่นที่จะมีบทบาทในการดูแลและเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ตอบสนองทั้งการดูแลสุขภาพโดยรวมและความต้องการเฉพาะ โดยคัดสรรแต่ส่วนผสมคุณภาพ บนพื้นฐานของความรับผิดชอบและจรรยาบรรณที่เข้มงวด ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เป็น ผลจากการวิจัยทางคลินิกและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น

ความมั่นคงด้านการเงิน
nuskin รักษาความมั่นคงด้านการเงินมาโดยตลอด และตั้งแต่ปี 2540 nuskin enterprises ได้เข้าสู่ตลาดค้าหลักทรัพย์ของนิวยอร์ค (NYSE) ภายใต้สัญลักษณ์ "NUS"

เป็นยังไงกันบ้างละครับข้อมูลของบริษัท nuskin คร่าวๆ ที่ผมได้นำมาเสนอให้ทุกๆท่านได้ทราบกัน คงพอที่จะทำให้ทุกๆท่านมีความมั่นใจเกี่ยวกับบริษัทหรือว่าตัวสินค้าของ nuskin กันมากขึ้นนะครับ แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้ก็สามารถเข้าไปดูได้ครับที่ http://www.nuskin.com/th นะครับ ^_^
วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

First Impression with Nuskin

สวัสดีครับทุกท่าน จากคราวที่แล้วผมได้บอกกล่าวถึงสาเหตุที่ผมได้ทำการเขียน nuskin thailand society blog นี้ขึ้นมาแล้วนะครับ ว่ามีเหตุมาจากที่ผมนั้นประทับใจในตัวสินค้าของ nuskin เป็นพิเศษ คราวนี้ผมก็เลยอยากจะเล่าถึงที่มาที่ไปให้ท่านทั้งหลายได้ทราบกันถึง first impression ของผมที่มีต่อธุรกิจ nuskin

จริงๆแล้วก่อนที่ผมจะได้มาพบกับ nuskin ผมเองก็ได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลธุรกิจ mlm ตัวอื่นๆพร้อมทั้งมีโอกาสได้ลองทำมาบ้างพอสมควร ถ้าจะให้เล่ากันจริงๆแล้วก็ตั้งแต่สมัยที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 นั้นแหละครับ เพื่อนผมมันไปชวนฝังโอกาสทางธุรกิจของบริษัท MLM ยักษ์ใหญ่ชื่อดัง ชื่อขึ้นต้นด้วยตัว A 555หลายๆคนคงรู้จักดี เดี๋ยวนี้เขามีโฆษณาออกทีวีสะด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีนะครับทำให้ผมได้แนวคิดดีๆหลายอย่างแล้วก็สมัครกับเพื่อนผมไป แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะตอนนั้นเรียนอยู่ยังต้องขอเงินทางบ้านใช้
หลังจากนั้นมาเจออีกที ก็ตอนที่ผมทำงานประจำปีแรกครับ ผมทำงานเป็นวิศวกรโรงงานอยู่ที่ จ.ระยองครับ

เย็นวันนึงพี่ผู้หญิงที่รู้จักที่เคยทำงานด้วยกันก็โทรมาบอกว่าวันนี้อยากเจอมีอะไรดีๆจะให้ดู พร้อมทั้งบอกว่าจะทำอาหารเลี้ยงให้ชวนเพื่อนๆมาด้วย ไอ้ผมก็เห็นแก่กิน เลยตอบตกลงกะพี่เขาไป วันนั้นไปกันประมาณ 5 คนได้ พี่เขาก็ทำอาหารให้ทานตามที่ได้คุยกันไว้ ก็อิ่มอร่อยไปเลย หลังจากนั้นก็เลยถามพี่เขาว่าไหนบอกว่ามีอะไรจะโชว์ให้ดู พี่เขาก็มีโชว์ให้ดูจริงๆครับเป็นการสาธิตเครื่องกรองน้ำของยี่ห้อเดียวกับจ้าวแรกที่ผมเจอตอนปี 2 แล้วก็มีสินค้าอีกหลายอย่างที่พี่เขาสาธิตให้ดู โดยเทียบกับสินค้าตามท้องตลาดว่าของเขานั้นดีกว่ายังไง ซึ่งเท่าที่ดูผมกะเพื่อนๆก็เห็นว่าของเขานั้นดีกว่าจิงๆครับ ซึ่งพี่เขาก็ได้ทดลองนวดหน้าให้ด้วยก็รู้สึกโอเค ผมกะเพื่อนๆก็เลยสมัครกะพี่เขาไป ซึ่งเป็นการสมัครครั้งที่ 2 ของผม เหอๆ หลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสวนเวียนอยู่กับธุรกิจ mlm อีกพอสมควร จนกระทั้งได้มาเจอ nuskin เมื่อประมาณเกือบ 2 ปีมาได้ อิๆ โม้สะนาน

ยังจำได้ตอนนั้นผมไปเดินเที่ยวที่ห้าง Central World กับน้องที่รู้จักกันอีกหนึ่งคน ก็เผอิญเหลือบไปเห็นบูทจัดนิทรรศการณ์ใหญ่ๆ อยู่บูทนึง ผมกับน้องก็เลยเดินเข้าไปดู ก็เห็นว่าเป็นบูทของบริษัท nuskin ซึ่งจิงๆส่วนตัวของผมเองนั้นก็เคยได้ยินชื่อเสียงของบริษัท nuskin มาบ้างพอสมควร แต่ก็เป็นการรู้จักแค่ชื่อครับ ไม่เคยมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสอะไรมากนัก ดังนั้นผมกะน้องก็เลยเดินเข้าไปดู ก็มีคนที่อยู่ในบูทเดินเขามาต้อนรับเป็นอย่างดี พาไปชมจุดต่างๆในบูทด้วยว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง ซึ่งหลักๆที่เห็นก็มีจุดแสดงสินค้าตัวหลักๆ จุดตรวจสุขภาพด้วยเครื่อง biophotonic scaner ซึ่งเป็นเครื่องที่วัดค่าของสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งผมกะน้องก็ได้มีโอกาสตรวจด้วยครับ เพราะว่าตอนนั้นเขาตรวจฟรี ซึ่งค่าที่ได้ออกมาต่ำมาก ซึ่งเขาก็มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรจะดูแลสุขภาพร่างกายของเรานั้นอย่างไรบ้าง ซึ่งถ้าทำไม่ได้ก็นี่เลยครับง่ายๆ ทานอาหารเสริมของ nuskin ช่วยได้ซึ่งตอนนั้นผมกะน้องก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่ว่าในงานก็มีให้ลองชิมน้ำผลไม้ของ nuskin ที่ชื่อว่า g3 ฟรีครับ ซึ่งผมทานแล้วก็รู้สึกว่าอร่อยดี อยากกินอีก555 พอพี่เขาพาชมทุกจุดเขาก็เรียกมานั่งคุย ถามเกี่ยวกับความสนใจต่างๆ ผมก็บอกว่าผมสนใจ พี่เขาก็เลยถามว่าอยากจะทดลองสินค้ามั้ย ผมก็บอกว่าสนใจ ก็เลยทำการนัดแนะเพื่อไปทดลองสินค้ากับพี่เขา

หลังจากนั้นไม่นานก็ถึงวันที่ผมนัดเพื่อ test สินค้ากะพี่เขา พี่เขานัดผมที่ ศูนย์ nuskin ที่สีลม คอมเพล็ก มาถึงพี่เขาก็อธิบายข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของ nuskin ให้ฟังคร่าวๆว่ามีอะไรบ้าง เป็นสูตรน้ำยังไง หลังจากนั้นก็เริ่มทำการสาธิตสินค้าแต่ละตัวให้ดูครับตามสโลแกนที่ว่าส่วนผสมทุกชนิดของสินค้า nuskin นั้นจะมีแต่สิ่งที่ดี ไม่มีสิ่งที่เป็นสารพิษหรือว่าอันตรายใดๆเจือปน ซึ่งพี่เขาก็ทำการสาธิตเทียบกับสินค้าตามท้องตลาดทั่วไปซึ่งตอนแรกผมมองว่าก็เหมือนกับยี่ห้อ a ที่ผมเคยเจอมาก็คงไม่ต่างกัน แต่ที่ไหนได้ครับพี่เขากล้าสาธิตเทียบกับสินค้าของยี่ห้อ a ให้ดูครับ แค่นั้นยังไม่พอครับยังสาธิตเทียบกับสินค้ายี่ห้อ brand name ดังๆที่เราเห็นวางขายกันอยู่ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ซึ่งผลลัพธ์ที่ผมเห็นในวันนั้นมันทำให้ผมถึงกับอึ้งครับว่าสินค้าของ nuskin เขาดีขนาดนี้เลยหรอ พอสาธิตสินค้าเสร็จทีนี้พี่เขาให้ผมลองใช้เลยครับ ผมยังจำได้ ชุด face lift เลยครับชุดเปิดใจผม พี่เขาก็ผสมแล้วก็มาทาให้ที่หน้าของผมแล้วก็ทิ้งไว้สักพัก ระหว่างนั้นพี่เขาก็บรรยายถึงสรรพคุณของไอ้เจ้าชุด face lift นี้ให้ฟัง ซึ่งผมก็รู้สึกได้ถึงความตึงที่ไอ้เจ้าแป้งที่พี่เขามาทาที่หน้าผมนี้มันพยายามที่จะดึงหน้าผมให้ตึงขึ้น พอพี่เขาเห็นว่าตึงได้ที่เขาก็บอกให้ไปล้างหน้า พอล้างเสร็จผมรู้สึกได้เลยครับพร้อมทั้งมองเห็นหน้าตัวเองในกระจกครับว่าดูดีขึ้นรูขุมขนกระชับขึ้นชอบอะอิๆ เท่านั้นยังไม่พอพี่เขายังให้พอกโคลนอีกก็รู้สึกประทับใจกับสินค้าของ nuskin มากครับในวันนั้น แต่กว่าผมจะตัดสินใจสมัครธุรกิจ nuskin ก็เกือบปีครับหลังจากนั้น จนวันนี้ผมใช้ผลิตภัณฑ์ nuskin มาได้ 10 เดือนแล้วครับรู้สึกว่าหน้าตัวเองดูดีขึ้นกว่าสมัยที่ผมทำงานเป็นวิศวกรที่ระยองอีกครับ ซึ่งไม่ใช่แค่ผมรู้สึกไปเองคนเดียวนะครับ คนรอบข้างผมต่างทักว่าผมไปทำอะไรกับหน้ามาหรือป่าวทำไมดูใสขึ้น ดูดีขึ้น ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจ แล้วก็หลงรัก nuskin ขึ้นไปอีก

ที่ผมประทับใจมากคือ มีพี่พยาบาลคนนึงครับที่โรงพยาบาลที่โด่งดังมากเรื่องตาแถวตลาดน้ำดอนหวายเขาเป็นพี่ที่สนิทมากกะเพื่อนผม ซึ่งเพื่อนผมเขาเป็นนักเรียนหมออยู่ที่นั้น มีช่วงนึงผมแวะไปหาเพื่อนผมบ่อยๆ พี่พยาบาลคนนี้เขาก็สังเกตเห็นถึงความเนียนใสขึ้นบนใบหน้าผมแกก็เลยแอบถามเพื่อนผมว่าผมไปทำไรมา ซึ่งปกติพี่พยาบาลคนนี้แกไม่ค่อยจะใช้ skin care ดูแลใบหน้าสักเท่าไหร่ ผมกะเพื่อนก็เลยแนะนำ nuskin กะแกพร้อมทั้งพวกพี่ๆพยาบาลที่นั้นอีกหลายคนเลยครับ ก็เลยได้ลูกค้าแบบไม่ได้ตั้งใจไปอิๆ นี่แหละครับ first impression ของผมที่มีต่อ nuskin ถ้าเพื่อนๆอยากมี first impression แบบผมก็ลองใช้สินค้า nuskin ดูก็ได้นะครับรับรองไม่ผิดหวังแต่ว่าก็ต้องเลือกให้เหมาะกับผิวหน้าของเราด้วยนะครับ ไม่งั้นจะหาว่าผมไม่เตือนอิๆ หรือถ้าท่านใดมีความรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับผลิตภัIฑ์ของ nuskin ก็สามารถมาแบ่งปันเรื่องราวให้ได้รับรู้กันบ้างนะครับ เพราะผมเองก็อยากรู้ว่าแต่ละท่านมีความรู้สึกหรือคิดเห็นยังไงกันบ้าง งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนละกันครับ แล้วคราวหน้าผมจะมาเล่าถึงตัวผลิตภัณฑ์ของ nuskin ที่ผมใช้แล้วรู้สึกประทับใจครับพร้อมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท nuskin ให้พวกเราได้รู้จักกันคร่าวๆครับ ^_^

Welcome to Nuskin Thailand Society

สวัสดีครับทุกๆท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู้ blog nuskin thailand society ของผมนะครับ

สาเหตุที่ผมเขียนเจ้า blog นี้ขึ้นมาเนื่องจากความประทับใจส่วนตัวเกี่ยวกับ nuskin โดยเฉพาะตัวสินค้า ก็เลยรู้สึกอยากที่จะบอกเล่าเรื่องราว ความประทับใจต่างๆของตัวผมเอง คนรอบข้าง รวมถึงทุกๆท่านที่เคยมีประสบการณ์ต่างๆเกี่ยวกับบริษัท nuskin ไม่ว่าจะเกี่ยวกับ Product หรือว่าธุรกิจ nuskin เองก็ตาม เพื่อให้ทุกๆท่านได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นต่างๆเกี่ยวกับ nuskin รวมถึงผู้ที่กำลังสนใจในตัวธุรกิจหรือว่าสินค้าของ nuskin เองด้วยนั้น ก็จะได้รับข้อมูลต่างๆจากทุกท่านที่มีประสบการณ์ตรงในการประกอบการตัดสินใจต่างๆ

เพราะฉะนั้นผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า blog nuskin thailand society นี้จะเป็นอีกที่หนึ่งที่จะทำให้ทุกท่านได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นต่างๆเกี่ยวกับ nuskin ได้เต็มที่ พร้อมทั้งได้รับข้อมูลข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับ nuskin ไม่มากก็น้อยนะครับ หรือท่านใดมีคำถามหรือข้อสงสัยประการใดก็สามารถฝากเอาไว้ได้ครับ แล้วยังไงผมจะพยายามหาคำตอบมาให้ครับ ^_^